ปู่แพ เป็นชื่อของ ผีบรรพบุรุษหรือผู้มีบุญคุณในท้องถิ่น ที่ชาวบ้านเชื่อว่าคอยคุ้มครองหมู่บ้าน วัด หรือพื้นที่นั้น ๆ ศาลลักษณะนี้มักจะตั้งอยู่ในวัดหรือหมู่บ้าน เพื่อเป็นที่สักการะ บูชา ขอพร และบนบานศาลกล่าว สิ่งที่เห็น เช่น รูปปั้นปู่แพ, เครื่องบูชา, ธูปเทียน, รูปปั้นเสือ เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจคุ้มครอง
การบูชา ชาวบ้านจะมากราบไหว้ ขอพรเรื่องสุขภาพ การเดินทาง ความปลอดภัย รวมถึงโชคลาภต่าง ๆ และหากสมหวัง ก็มักจะนำเครื่องบูชา เช่น ผ้าขาวม้า, เหล้า, หรือของที่ศาลชอบ มาถวาย
วัดทุ่งเหียง เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านเคารพศรัทธา และมีพระพุทธรูปสำคัญคือ “พระปางลีลา” องค์ใหญ่ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าวัด พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะยืนปางลีลา แสดงถึงความงดงาม อ่อนช้อย และเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรือง องค์พระสร้างขึ้นมานานเกือบ 20 ปี และภายในได้บรรจุพระกรุไว้จำนวนหนึ่ง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ เมื่อองค์พระปางลีลาได้ล้มลงเนื่องจากฐานที่รองรับไม่มั่นคง ทำให้พระกรุที่บรรจุอยู่ภายในแตกกระจาย ชาวบ้านต่างรู้สึกเสียใจเพราะพระปางลีลาเป็นที่เคารพยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยกันเก็บรักษาพระกรุ และบางส่วนถูกนำมาให้เช่า เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการบูรณะและสร้างองค์พระขึ้นใหม่
ปัจจุบัน พระปางลีลาวัดทุ่งเหียงยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาของชุมชน ชาวบ้านเชื่อว่าการกราบไหว้สักการะจะช่วยเสริมสิริมงคล และให้ชีวิตก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง
อุโบสถเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดในวัด ใช้เป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ทำสังฆกรรมต่าง ๆ เช่น การบวชพระ การสวดปาติโมกข์ และการประชุมสงฆ์ ภายในอุโบสถจะประดิษฐานพระประธานเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการะ รอบ ๆ อุโบสถจะมีการปักใบเสมาไว้ 8 ทิศ และอีก 1 หลัก รวมเป็น 9 หลัก เพื่อกำหนดเขตพุทธาวาส อุโบสถจึงถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นหัวใจของวัด การสร้างอุโบสถไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธา ความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านที่ต้องการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป